รายงานใหม่ชี้ผลกระทบของกัญชาถูกกฎหมายต่อความปลอดภัยและค่าใช้จ่ายในที่ทำงาน
การทำให้กัญชาถูกกฎหมายเพื่อการสันทนาการไม่เพียงแต่ส่งผลต่อสังคมและสุขภาพ แต่ยังมี ผลกระทบทางเศรษฐกิจและแรงงาน ที่ชัดเจน ล่าสุด รายงานจาก สถาบันวิจัยค่าชดเชยแรงงานของสหรัฐฯ (Workers Compensation Research Institute – WCRI) เผยว่า ในรัฐที่กัญชาถูกกฎหมาย มีจำนวนการเรียกร้องค่าชดเชยจากอุบัติเหตุในที่ทำงานเพิ่มขึ้น แต่ในทางกลับกัน ค่าใช้จ่ายในการรักษาเฉลี่ยต่อเคสกลับลดลง
รายงานความยาว 51 หน้าเก็บข้อมูลจาก 31 รัฐในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2012 ถึง 2022 โดยวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายกัญชาสันทนาการและระบบค่าชดเชยแรงงาน
จำนวนเคสอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นหลังการทำให้กัญชาถูกกฎหมาย
รายงานพบว่า หลังจากที่รัฐออกกฎหมายให้กัญชาสันทนาการถูกกฎหมาย:
- ภายใน 1.7 ปี จำนวนเคสเรียกร้องค่าชดเชยเพิ่มขึ้น 7.7%
- ภายใน 5 ปี ตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็น 15%
สาเหตุอาจมาจากการใช้กัญชานอกเวลางานที่อาจทำให้เกิด อาการเมา เคลิ้ม หรืออ่อนล้า ส่งผลต่อความปลอดภัยในที่ทำงาน รวมถึงอาการถอนยาในบางราย
ค่ารักษาพยาบาลเฉลี่ยต่อเคสลดลงอย่างชัดเจน
แม้จำนวนอุบัติเหตุจะเพิ่มขึ้น แต่ ค่าใช้จ่ายในการรักษาเฉลี่ยต่อหนึ่งเคสกลับลดลง:
- ลดลงเฉลี่ย 207 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 5.7% ภายในปีแรกหลังการทำให้ถูกกฎหมาย
- สาเหตุหลักมาจากการ ลดการใช้ยารักษาโดยเฉพาะยาแก้ปวดและโอปิออยด์
นั่นหมายความว่า การรักษาผู้ป่วยในระบบประกันแรงงาน มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเสียค่าใช้จ่ายน้อยลง
การใช้ยาแก้ปวดและโอปิออยด์ลดลง
ผลจากการลดค่าใช้จ่ายในการรักษานั้นส่วนหนึ่งมาจาก การใช้ยาน้อยลง ดังนี้:
- ยาที่แพทย์สั่งจ่ายต่อเคสลดลง 13.9%
- ยาแก้ปวดลดลง 11.7%
- ยาในกลุ่มโอปิออยด์ลดลง 9.7%
- มีการใช้ยานอนหลับลดลงเช่นกัน
ข้อมูลเหล่านี้บ่งชี้ว่า กัญชาอาจถูกใช้เป็นทางเลือกในการบรรเทาอาการปวดแทนยาที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเสพติด
ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น และกลับมาทำงานไวกว่าเดิม
รายงานยังระบุว่า กัญชาอาจมีผลต่อการฟื้นฟูร่างกายของแรงงาน:
- ระยะเวลาการหยุดงานชั่วคราวสั้นลง
- คนไข้มีแนวโน้ม ไม่เข้าสู่ภาวะใช้โอปิออยด์เรื้อรัง
กัญชาอาจช่วยให้แรงงานสามารถ กลับไปทำงานได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งพายาแก้ปวดชนิดแรงที่มีผลข้างเคียงมาก
ระยะเวลาและจำนวนเงินชดเชยไม่เปลี่ยนแปลง
แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงในด้านการรักษาและค่าใช้จ่าย แต่ระบบการจ่ายค่าชดเชยยังคงเสถียร:
- ระยะเวลาของคดีหรือกระบวนการเคลมไม่เปลี่ยนแปลง
- จำนวนเงินชดเชยยังคงเท่าเดิม
แสดงให้เห็นว่า กฎหมายกัญชา ไม่ส่งผลต่อโครงสร้างของระบบค่าชดเชย แต่ทำให้ระบบนั้นทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อควบคุมผลกระทบจากกัญชา
WCRI เสนอแนวทางเชิงนโยบายเพื่อช่วยให้การใช้กัญชาในที่ทำงานไม่กระทบความปลอดภัย:
- จำกัดระดับ THC ในผลิตภัณฑ์กัญชาเพื่อป้องกันภาวะมึนเมา
- เพิ่มภาษีกัญชา เพื่อลดการใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม
- จัดโปรแกรมอบรมและสนับสนุนพนักงาน เกี่ยวกับการใช้กัญชาอย่างปลอดภัย
- เข้มงวดนโยบายตรวจสารเสพติดและกฎระเบียบในสถานประกอบการ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยง
แนวทางเหล่านี้จะช่วยให้สถานประกอบการสามารถ บริหารความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม พร้อมรักษาประโยชน์ด้านสาธารณสุข
ทำไมข้อมูลนี้จึงสำคัญสำหรับนายจ้าง ผู้กำหนดนโยบาย และบุคลากรทางการแพทย์
“การวิจัยนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่การใช้กัญชากำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” — รโมนา ทานาเบะ ประธานและซีอีโอของ WCRI กล่าว พร้อมเสริมว่า ด้วยประชากรชาวอเมริกันกว่า 70% สนับสนุนการทำให้กัญชาถูกกฎหมาย การทำความเข้าใจผลกระทบของนโยบายนี้ในภาคแรงงานจึงมีความจำเป็นเร่งด่วน
รายงานนี้เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับ นายจ้าง บริษัทประกัน แพทย์ และผู้กำหนดนโยบาย ในการวางแผนและบริหารจัดการแรงงานภายใต้บริบทใหม่ที่กัญชากลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับงานวิจัยใหม่ๆ ที่แสดงให้เห็นว่ากัญชาอาจมี ประโยชน์ในด้านสุขภาพและพฤติกรรม เช่น ช่วยลดความอยากดื่มแอลกอฮอล์ในผู้ที่ดื่มหนัก (อ่านเพิ่มเติม) ส่งผลต่อ ระดับ THC ตามพันธุกรรมของพืช (ดูบทสัมภาษณ์ ดร.แอนนา ชเวบ) และสามารถช่วยลดพฤติกรรมการใช้กัญชาแบบเสี่ยงในประเทศที่มีกฎหมายชัดเจน เช่น สวิตเซอร์แลนด์ (อ่านผลการศึกษา)