การวิจัยใหม่เน้นย้ำศักยภาพการรักษาของ Cannabigerol
งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ฉบับใหม่ที่ครอบคลุมได้เน้นย้ำถึงสารแคนนาบินอยด์ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักอย่างแคนนาบิเจอรอล (CBG) ซึ่งเป็นสารบำบัดที่มีแนวโน้มดี การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน วารสาร Molecules ได้เน้นย้ำถึงความสามารถของ CBG ในการมีอิทธิพลต่อกระบวนการทางสรีรวิทยาต่างๆ ซึ่งอาจช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น มะเร็ง การอักเสบ ความผิดปกติของการเผาผลาญ และอาการปวดเรื้อรัง
บทวิจารณ์ดังกล่าวระบุว่าแม้ว่าการวิจัยเกี่ยวกับ CBG จะยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา แต่กลไกโมเลกุลเฉพาะตัวของ CBG ทำให้ CBG แตกต่างจากแคนนาบินอยด์ที่รู้จักกันดี เช่น เดลตา-9 THC และ CBD CBG ไม่เพียงแต่โต้ตอบกับตัวรับแคนนาบินอยด์ของร่างกายเท่านั้น แต่ยังโต้ตอบกับตัวรับ เช่น α2AR และ 5-HT1A ซึ่งมีบทบาทในการปกป้องระบบประสาทและควบคุมอารมณ์อีกด้วย
ประโยชน์ทางการรักษาที่อาจได้รับ

การศึกษาที่เขียนโดยทีมงาน 10 คนจากสถาบันในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา ระบุถึงการประยุกต์ใช้ CBG ในการบำบัดที่เป็นไปได้หลายประการ ได้แก่:
- การปกป้องระบบประสาท : CBG สามารถช่วยรักษาโรคทางระบบประสาทเสื่อม เช่น อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน และโรคเส้นโลหิตแข็งได้ โดยการปรับปรุงการทำงานของระบบการเคลื่อนไหวและลดตัวบ่งชี้ความเครียดในสมอง
- การจัดการความเจ็บปวด : หลักฐานชี้ให้เห็นว่า CBG อาจลดความไวต่อความเจ็บปวดโดยการรบกวนการส่งสัญญาณความเจ็บปวด
- ฤทธิ์ต้านการอักเสบและแบคทีเรีย : CBG แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการต่อสู้กับการติดเชื้อและลดการอักเสบ
- การรักษามะเร็ง : กลไกของแคนนาบินอยด์อาจยับยั้งการเติบโตของเนื้องอก แม้ว่าจะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม
แม้ว่าผู้ใช้บางรายรายงานว่าการนอนหลับดีขึ้นเมื่อใช้ CBG แต่การตรวจสอบยังระบุว่าการยืนยันทางคลินิกยังคงอยู่ระหว่างรอ
กลไกที่เป็นเอกลักษณ์และความจำเป็นในการวิจัยเพิ่มเติม
ต่างจากแคนนาบินอยด์ชนิดอื่น CBG แสดงปฏิสัมพันธ์ที่ชัดเจนกับระบบประสาท ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่าอาจปลดล็อกแนวทางการรักษาใหม่ๆ ได้ การทบทวนนี้เรียกร้องให้มีการศึกษาเพิ่มเติมโดยเน้นที่ CBG เพียงอย่างเดียว เพื่อทำความเข้าใจกลไกการรักษาอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของการปกป้องระบบประสาทและการบรรเทาอาการปวด