บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ของโลกอย่าง Brown-Forman ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Jack Daniel’s และ Woodford Reserve เปิดเผยว่าตอนนี้บริษัทกำลังเผชิญกับแรงกดดันจาก “ตลาดกัญชา” ที่กำลังเติบโต โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้ยอดขายสุทธิของบริษัทลดลงกว่า 5% ภายในปีที่ผ่านมา
Lawson Whiting ซีอีโอของบริษัทกล่าวว่า ไม่ใช่แค่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหรือเงินในกระเป๋าผู้บริโภคลดลงเท่านั้น แต่แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ
3 ปัจจัยหลัก: คนรุ่นใหม่, ยาลดน้ำหนัก, และกัญชาที่ถูกกฎหมาย
Whiting ระบุว่ามี “สามแรงกระเพื่อมใหญ่” ที่ส่งผลต่อยอดขายในอุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ ได้แก่
- คนรุ่นใหม่ดื่มน้อยลง
- การใช้ยาลดน้ำหนักแบบฉีดอย่างแพร่หลาย
- และการหันมาใช้กัญชาแทนการดื่มแอลกอฮอล์
“เราคงหลอกตัวเองถ้าไม่ยอมรับว่ากัญชากำลังกดดันธุรกิจของเรา” Whiting กล่าว พร้อมชี้ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้
ไม่ใช่แค่ในสหรัฐฯ แต่อาจลามถึงยุโรปและเอเชีย
แม้แนวโน้มนี้จะเห็นชัดในสหรัฐฯ ที่หลายรัฐเปิดเสรีกัญชาแล้ว แต่ Whiting ชี้ว่า พฤติกรรมผู้บริโภคในยุโรปก็เริ่มแสดงแนวโน้มเดียวกัน แม้กัญชายังไม่ถูกกฎหมายในหลายประเทศก็ตาม นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าให้เอเชีย รวมถึงประเทศไทย เตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดบริโภค
ธุรกิจแอลกอฮอล์ต้องปรับตัวอย่างไร?
ในแถลงการณ์ของบริษัท Brown-Forman ระบุชัดเจนว่าการเปลี่ยนแปลงใน “ความชอบและรูปแบบการบริโภคของผู้บริโภค” เป็นหนึ่งในความเสี่ยงหลักที่อาจส่งผลกระทบต่ออนาคตของธุรกิจแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเมื่อการเปิดเสรีกัญชายังมีแนวโน้มจะขยายวงกว้างมากขึ้น
แม้จะเผชิญกับความท้าทาย Whiting ย้ำว่าบริษัทพร้อมเดินหน้าต่อ ด้วยกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่น นวัตกรรมใหม่ และความสามารถในการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง
บทความแนะนำ: กัญชากำลังเปลี่ยนทิศทางตลาดโลก
ธุรกิจกัญชาไม่ได้เติบโตแค่ในแง่ยอดขาย แต่ยังสร้างโครงสร้างใหม่ให้กับระบบเศรษฐกิจด้วย สนใจอ่านต่อเกี่ยวกับ ธุรกิจกัญชาในไทยแบบไม่ง้อธนาคาร, วิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้กัญชาระหว่างเพศในปี 2025, หรือดู การคาดการณ์การเติบโตของตลาดกัญชาทางการแพทย์ในปี 2030 เพื่อเข้าใจอนาคตของอุตสาหกรรมนี้ได้ดียิ่งขึ้น
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) – กัญชา VS แอลกอฮอล์
กัญชากำลังแทนที่แอลกอฮอล์จริงหรือไม่?
ยังไม่ถึงขั้นแทนที่ทั้งหมด แต่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีแนวโน้มชัดเจนที่หันไปใช้กัญชาแทนการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะในกิจกรรมสังสรรค์หรือผ่อนคลาย
ทำไมบริษัทแอลกอฮอล์ถึงกังวลเรื่องกัญชา?
เพราะกัญชาในตลาดเสรีกลายเป็นคู่แข่งโดยตรง แย่งส่วนแบ่งตลาดจากเครื่องดื่มอย่างไวน์ เบียร์ และสุรา ส่งผลต่อยอดขายและอนาคตของธุรกิจ
แนวโน้มนี้จะเกิดในไทยด้วยหรือไม่?
หากไทยเดินหน้าทางนโยบายเสรีกัญชา (ทั้งทางการแพทย์และสันทนาการ) ก็อาจเห็นผลกระทบต่ออุตสาหกรรมแอลกอฮอล์เช่นเดียวกับในสหรัฐฯ
บริษัทแอลกอฮอล์ควรปรับตัวอย่างไร?
หลายบริษัทเริ่มลงทุนในเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ หันไปทำแบรนด์ที่เน้นสุขภาพ หรือพิจารณาร่วมมือกับอุตสาหกรรมกัญชาในพื้นที่ที่กฎหมายอนุญาต